ดิฉัน เป็นคนหนึ่งที่เคยทำแท้ง ถึง2 ครั้ง ครั้งแรกสมัยเรียนมหาลัย เพราะเป็นแฟนคนแรก มีอะไรไม่ได้ป้องกัน เมื่อรู้ว่าท้องก็คิดว่าต้องเอาออกเพราะเรียนอยู่ ตอนนั้นไม่ได้คิดเรื่องบาปกรรมอะไรเลย ผลจากกรรมที่ทำลงไปครั้งแรก คือเรียนไม่จบ เจอกับผู้ชายที่หลอกลวง เสียใจ ทำลายตัวเองทุกอย่าง ชีวิตจมอยู่กับความรักที่ทำให้ทุกข์ตลอดเวลา
พอเรียนไม่จบก็ออกมาทำงาน ประมาณปี 46 ก็มีอะไรกับแฟนอีกคน โดยไม่คิดป้องกัน แล้วก็ท้องอีก และก็ไม่คิดจะเก็บไว้ ไม่มีสำนึกผิดชอบชั่วดีเลย ใช้ยาสอดแล้วก็แท้งไป อายุน่าจะ 1 เดือน ชีวิตก็ไม่มีความสุขอีกเลย เลิกกับแฟน ออกจากงาน ได้งานใหม่ก็ติดๆขัดๆ มีแฟนก็เจอแต่คนเจ้าชู้ ผิดหวังเสียใจ เป็นแบบนี้ตั้งแต่อายุ 19 -29ปี ชีวิตตกต่ำมากๆถึง 10 ปีเต็มๆ
ตัวเองเมื่อรู้ว่าการทำแท้งคือบาปมหันต์ จึงเริ่มศึกษาและพยายามทำสิ่งที่ดีๆ ถึงแม้ว่ากรรมที่ทำไปไม่สามารถแก้ได้ แต่ถ้าสำนึกผิดไม่คิดทำอีกก็อาจจะมีหนทางที่ดีขึ้น จึงเริ่มศึกษาธรรมะ เข้าวัดปฎิบัติ ทำบุญ บริจาคเลือดทุกๆ 3เดือน ตลอดเวลา นึกถึงลูกที่เคยทำแท้งตลอด คิดเสมอว่าเขาอยู่กับเรา คิดเสมอว่าเขาอาจจะไม่อภัยเรา
ตอนนี้อายุ 31 ปีแล้ว และได้ตั้งครรภ์ได้ 2เดือนแล้ว แฟนคนปัจจุบันอยากมีลูกมาก ชีวิตของเราเรื่องการเงินเริ่มมีเงินเก็บมาขึ้น จากที่เก็บไม่เคยได้เลย พยายามตั้งใจจะดูแลลูกในท้องให้ดี คิดว่าหากเป็นลูกที่เคยทำแท้งมาเกิดเราคงมีโอกาสได้ดูแลเขา สิ่งต่างๆที่เคยทำผิดไปไม่เคยลืมเลย แต่ว่าโอกาสที่เรามีอยู่ตอนนี้คือทำสิ่งดีๆให้มากที่สุด แม้วันข้างหน้าอะไรร้ายๆจะเกิดขึ้น เราเต็มใจที่จะรับมันไว้เอง หวังว่าลูกที่จะเกิดมา จะให้เรามีโอกาสได้เป็นแม่ที่ดีได้
สิ่งใดๆก็ตามที่เคยทำผิดกับลูก ที่เคยทำแท้ง ขอให้รู้ว่าแม่สำนึกผิด และไม่คิดขอให้อภัย และยินดีชดใช้กรรมต่อไป แต่จะไม่เลิกทำสิ่งดีๆเพื่ออุทิศให้ดวงวิญญาณของลูก
คนเราบุคลิกภายนอกเหมือนเป็นคนดี จิตใจดี แต่โอกาสที่จะผิดพลาดในชีวิตและได้ทำแท้งก็มีมากเหมือนคนที่บุคลิกภายนอกดูเจนจัด จิตใจแข็งกระด้าง คนทุกคนจึงทำดีทำชั่วได้เท่าเทียมกัน หากมีโอกาสได้ศึกษาและเรียนรู้ชีวิตให้ดีก่อน จะรู้ว่าเราควรหาทางออกอะไรที่ดีกว่าการทำแท้ง "เมื่อทองไม่เห็นว่าในท้องคือคน จึงไม่คิดว่านั้นคือบาป หากวันไหนรู้ว่าบาป จึงได้มาสำนึกผิด" ช้าหรือเร็ว คนที่จะได้เป็นแม่คนๆนี้ ก็ยอมรับความจริงทุกอย่าง อโหสิกรรมให้แม่ด้วย........... |