ถ้ามีคนบอกว่า ผู้หญิงคนหนึ่งอายุแค่ 33 ปี แต่มีลูกแล้วถึง 14 คน เป็นลูกที่คลอดออกมาเองทั้งหมด ไม่ใช่ลูกที่ขอเขามาเลี้ยงด้วย คุณจะเชื่อหรือไม่?
แต่ถึงไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะผู้หญิงคนนั้น “นาเดีย ซูเลมาน” เต็มใจออกมาเปิดเผยชีวิตส่วนตัวว่าทำๆไมและเพราะอะไรจึงต้องมีลูกถึง 14 คน เมื่อต้นปี 52 นาเดียตกเป็นข่าวใหญ่เมื่อคลอดลูกแฝด 8 คนที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาและกลายเป็น....แม่คนแรกของโลกที่คลอดลูกแฝด 8 ที่รอดมีชีวิตอยู่ครบเกินกว่า 2 สัปดาห์และยังอยู่จนถึงปัญจุบัน (เมื่อ พ.ศ.2531 ผู้หญิงในรัฐเท็กซัสเคยคลอดลูกแฝด 8 มาแล้ว แต่ลูกคนหนึ่งอยู่ได้เพียงแค่อาทิตย์เดียวก็เสียชีวิต)
ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือ นาเดียมีลูกมาก่อนแล้ว 6 คน (เป็นแฝดคู่หนึ่ง)คนโตอายุ 7 ขวบและคนเล็กสุดอายุ 2 ขวบ
ข่าวของนาเดียแพร่ไปทั่วโลกทั้งทางสิ่งพิมพิ์และโทรทัศน์ แต่ก็ยังมีหลายอย่างเกี่ยวกับส่วนตัวของตัวเธอที่หลายๆ คนอยากรู้ เช่น เธอมีชีวิตอยู่แบบไหน อย่างไรแม้นาเดียจะบอกว่ายังไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ จากรับในการมีแฝด 8 ครั้งนี้ แต่ที่แล้วๆ มา เธอได้รับบัตรปันส่วนอาหารหรือ ฟู้ด แสตมป์(Food Stamp) เดือนละ 490 ดอลลาร์สหรัฐ(18,130 บาท) ในการเลี้ยง 6 คน นาเดียบอกว่าตั้งใจจะกลับไปเรียนต่อให้จบปริญญาโทในฤดูใบไม้ร่วงปีหน้า โดยจะเอาลูกแฝด 8 คนที่เกิดใหม่ไปฝากเลี้ยงที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็กของรัฐในตอนกลางวัน
นาเดียเคยแต่งงาน มาร์คอสกูเตียเรซ แต่อยู่ด้วยกันแค่ 4 ปีก็เลิกโดยไม่มีลูก อาจจะเลิกกันเพราะเหตุนี้ก็ได้ เพราะแอนเจล่า แม่วัย 68 ปีของเธอเล่าว่านาเดียอยากมีลูกมาก พยายามจะตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมปลายแต่ไม่สำเร็จ เพราะสภาพภายในไม่อำนวย คือเกิดภาวะเนื้อเยื่อบุมดลูกลูกผิดปกติไปปิดท่อทางเดินรังไข่
เธอเคยแท้งมาแล้วถึง 3 ครั้ง พอจบไฮคูล นาเดียเข้าเรียนต่อจนได้รับใบอนุญาตเป็นนักจิตวิทยาอาชีพประจำโรงพยาบาลเมืองนอร์วอล์ค แคลิฟอร์เนีย จนกระทั่งได้รับบาดเจ็บที่หลังจากกรณีก่อจลาจลของคนไข้จนต้องพักงานและได้รับเงินชดเชยเป็นจำนวน 168,000 ดอลลาร์สหรัฐ (6,216,00 บาท)
ตอนอยู่ว่างๆ นี้เองทำให้ความอยากมีลูกกลับมาอีก เมื่อมีโดยกรรมวิธีธรรมชาติไม่ได้ เธอจึงตัดสินใจใช้กรรมวิธีผสมเทียมและประสบความสำเร็จทันทีโดยไม่ใช้อสุจิของสามี แต่เป็นของเพื่อนคนหนึ่งซึ่งไปบริจาคไว้ที่โรงพยาบาล
แพทย์ประจำตัวบอกว่า 3 เดือน ก่อนคลอดลูกคนแรกในเดือนพฤษภาคม 2544 นาเดียกลัวมากมากว่าจะแท้งเป็นครั้งที่ 4 และหลังจากคลอด “เอลิจาห์” ลูกคนแรกได้ 5 เดือน ดร.อัลเฟรต บลอช จิตแพทย์ของเธอบอกว่า นาเดียเกิดวิตกจริต กลัวไปต่างๆ นานา เช่น กลัวลูกจะถูกลักพาตัว กลัวลูกจะได้รับอุบัติเหตุฯลฯ ที่ร้ายยิ่งกว่านั้น เธอบอกจิตแพทย์ว่ามีคนคอยจ้องจะทำร้ายเธอซึ่งรวมถึงแม่และสามีด้วย
ดร.บลอช บอกว่าสุขภาพจิตของนาเดียในช่วงนั้นอยู่ในสภาพแย่มาก และมีแนวโน้มว่าอาจนำไปสู่การฆ่าตัวตายได้
เธอกับสามีต้องเลิกกันในช่วงนี้เองแล้วในที่สุดเธอก็มีความสุขกับการมีลูกท้องแล้วท้องเล่าโดยกรรมวิธีเดิมจนได้ลูก 6 คนก่อนครั้งสุดท้ายที่จะมีทีเดียวพร้อมกันถึง 8 คน และทำให้นาเดียออกปากว่าคงจะพอแล้ว
นักข่าวถามเธอว่าเพื่อนชายผู้เป็นเจ้าของสเปิร์มรู้ไหมเรื่องแฝด 8 และเขารู้สึกอย่างไร นาเดียตอบว่าเขาพูดอะไรไม่ออกบอกแต่ว่าขอตั้งสติก่อน
แต่คุณยายแอนเจล่าเป็นผู้เฉลยว่า ทั้งนาเดียและผู้บริจาคอสุจิได้ทำสัญญาตกลงกันไว้เรียบร้อยแล้วว่า.... จะไม่มีการเรียกร้องค่าเลี้ยงดูเด็กที่เกิดมาด้วยกรรมวิธีพิเศษนี้จากผู้กบริจาค
ที่แผนกอนุบาลเด็กแรกเกิดของศูนย์การแพทย์ไคเซอร์เพอร์มาเนนท์ เบลล์ฟลาวเวอร์ ใกล้ๆ ลอสแอนเจลิสที่ทำคลอดให้นาเดีย เธอได้แนะนำผู้สื่อข่าวให้รู้จักลูกแฝดทั้ง 8 ที่นอนอยู่บนเตียงพิเศษว่าคนไหนชื่อ มาลิยาห์,โนอาห์.โจนาห์,ไอซายาห์,นาริยาห์,เจเรเมียห์ มาไกและโจเซียห์ พร้อมๆ กับก้มลงไปพึมพำพูดกับลูกๆ
“แม่รักลูกนะคะ..ดูซิ ลูกลืมตาแล้ว จำเสียงแม่ได้ไหมท รู้รึเปล่า พี่ๆ ของลูกที่บ้านอยากเห็นหน้าน้องๆเต็มแก่แล้ว”
“บ้าน” ที่เธอพูดถึง คือบ้านเล็กๆ 3 ห้องนอนของแม่ที่เธอหอบลูก 6 คนมาอาศัยอยู่ด้วยเมื่อ 3 ปีก่อนเพื่อให้แม่ช่วยเลี้ยงลูก มองจากข้างนอกจะเห็นใบไม้ กิ่งไม้แห้ง กระจัดกระจายอยู่ทั่วสนามรกๆ และสกปรก กระจกหน้าต่างครัวมีรอยแตกจนต้องเอาเทปมาเหนี่ยวยึดไว้ ห้องนอนใหญ่ ในบ้านที่มีเตียงเด็ก 2 เตียงเต็มไปด้วยกองเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว ฯลฯ ใช้ผ้าปูเตียงแขวนปิดหน้าต่างแทนม่าน ห้องนอนอื่นมีเตียงแบบ 2 ชั้นซึ่งเต็มไปเต็มด้วยกกองเสื้อผ้าใช้แล้วสูงท่วมหัวเข่าเช่นกัน
ตัวแหนของนาเดียบอกว่า สภาพรกรุงรังของบ้านที่เห็นไม่ใช่ความผิดของเธอเพราะเธอต้องไปนอนอยู่ที่โรงพยาบาลเกือบ 2 เดือน
ในสถานะแม่คนเดียวแต่ต้องเลี้ยงลูกถึง 14 คน แถม 8 คนยังนอนแบเบาะที่ต้องได้รับการเลี้ยงดูเป็นพิเศษ นาเดียยืนยันว่าจะพยายามทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้และที่พึ่งของเธอคือ พ่อกับแม่-เอ๊ด และแอนเจล่า ซูเลมาน
ตอนนี้สองตายายมีภาระต้องช่วยดูแลหลานชุดแรก 6 คนแบบเต็มเวลา ทุกเช้าวันธรรมดา คุณตาเอ๊ดจะขับรถไปส่งหลานคนโตสุด 3 คนที่โรงเรียนวิตเทียร์ คริสเตียน และไม่เขาก็คุณยายแอนเจล่ามีหน้าที่พาหลานชายวัย 5 ขวบคนที่เป็นออทิสติกไปส่งขึ้นรถโรงเรียนสำหรับเด็กพิเศษ จากนั้นจึงช่วยพี่เลี้ยงอีก 1 คนดูแลหลานๆ ที่เหลือจะย้ายไข่ที่ผสมกันแล้วเข้าไปครั้งละไม่เกิน 3 ฟองเพื่อหลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์แฝด
แต่พอนาเดียมีลูกแฝด 8 คนจากกรรมวิธีดังกล่าว แพทย์สภาแห่งแคลิฟอร์เนียวิธีดังกล่าว แพทย์สภาแห่งแคลิฟอร์เนียจึงต้องเข้ามาสอบหาสาเหตุจาก ดร.ไมเคิลแคมราวา แห่งเวสท์ โคสท์ ไอวีเอฟ คลินิกในเบเวอร์ลี ฮิลส์ ที่ทำ IVF ให้เธอ ผู้สื่อข่าวหลายสำนักก็พยายามติดต่อขอทราบที่มาที่ไปของเรื่องนี้จาก คร.แคมราวา เช่นกัน แต่ไม่สามารถติดต่อได้ อย่างไรก็ตาม เชื่อกันว่าคงไม่มีการสอยสวนเอาผิดแพทย์ผู้นี้ ไม่ว่าจะในด้านใดๆ
สมาคมสนับสนุนเทคโนโลยีการก่อกำเนิด(Society for Assisteld Reproductive Technology) ของสหรัฐอเริกาเคยแนะนำว่าไม่ควรย้ายไข่ตัวอ่อนเข้าไปฝังในมดลูกของผู้เป็นแม่ที่มีวัยต่ำกว่า 35 ปีเกินครั้งละ 2 ฟอง ในขณะที่ คร.กรีโฟ อดีตนายกสมาคมดังกล่าวบอกว่า เป็นเรื่องยากที่จะระบุว่าจำนวนแค่ไหนจึงเหมาะสมแต่ตามหลักฐานการทำกรรมวิธีไอวีเอฟในปี 2549 จำนวนไข่ที่ย้ายเข้าไปโดยเฉลี่ยอยู่ที่ครั้งละ 3.5 ฟอง กระนั้นก็ยังเป็นผลสำร็จในครั้งแรกได้เพียงไม่กี่ราย
สำหรับกรณีของนาเดีย เธอได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตอนปี 2549 ที่ตั้งครรภ์ลูกแฝดคู่แรก ดร.แคมราวา ทำให้เพียงครั้งแรกก็ได้ผล
ที่มา : นิตยสารคู่สร้างคู่สม